.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพุธ (17 พ.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารเวสเทิร์น อลิอันซ์ แบงคอร์ป เปิดเผยยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,420.77 จุด พุ่งขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.24%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,158.77 จุด เพิ่มขึ้น 48.87 จุด หรือ +1.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,500.57 จุด เพิ่มขึ้น 157.51 จุด หรือ +1.28%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เห็นพ้องกันว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันอาทิตย์นี้ (21 พ.ค.) เพื่อช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ปธน.ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า “เราจะร่วมมือกัน เพราะไม่มีทางเลือกอื่น โดยแกนนำของสภาคองเกรสต่างตกลงกันว่า สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามนายแมคคาร์ธีว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ขณะที่ปธน.ไบเดนเดินทางกลับจากญี่ปุ่นในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งนายแมคคาร์ธีกล่าวว่า “เป็นไปได้”
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารเวสเทิร์น อลิอันซ์ แบงคอร์ปเปิดเผยว่า ยอดเงินฝากในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ค.เพิ่มขึ้นกว่า 2 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคทะยานขึ้น 7.28% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2564 ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารที่คำนวณใน S&P500 พุ่งขึ้น 4.46% ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2565
หุ้นเวสเทิร์น อลิอันซ์ แบงคอร์ป พุ่งขึ้น 10.19% ปิดที่ 34.81 ดอลลาร์ หลังจากธนาคารเปิดเผยยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น และยังได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ของ Bank of America Global Research ให้น้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเวสเทิร์น อลิอันซ์ แบงคอร์ปที่ระดับ “Buy” พร้อมปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าวสู่ระดับ 42 ดอลลาร์
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 4.41% หลังจากนายอีลอน มัสก์ กล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาไม่มีแผนที่จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของเทสลา พร้อมกับเปิดเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่น และยืนยันว่าจะเริ่มส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ในปีนี้
หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.58% หลังจากบริษัทเปิดกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ของปีงบการเงินบริษัท โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.05 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.76 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 2.532 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.529 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.4 ล้านยูนิต สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 1.37 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์
